แม้ว่าเครื่องทำน้ำอุ่นจะกลายเป็นของใช้ประจำบ้านในยุคนี้ โดยเฉพาะในครัวเรือนที่ต้องการความสะดวกสบาย ผ่อนคลายร่างกายจากความเหนื่อยล้าด้วยน้ำอุ่นทุกเช้าหรือก่อนนอน แต่หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามว่า “เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นบ่อย ๆ จะเปลืองไฟไหม?” หรือ “จะมีวิธีไหนช่วยให้ใช้งานได้อย่างประหยัดโดยไม่ต้องลดความสบาย?”
คำตอบคือ มีแน่นอนครับ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแนวทางต่าง ๆ ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้าในบ้าน และยังคงใช้เครื่องทำน้ำอุ่นได้อย่างสบายใจเหมือนเดิม
ก่อนจะประหยัดไฟ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเครื่องทำน้ำอุ่นกินไฟแค่ไหน
ก่อนจะไปถึงวิธีประหยัดไฟ เราควรรู้ก่อนว่าเครื่องทำน้ำอุ่นกินไฟมากน้อยแค่ไหน และทำไมถึงมีผลต่อค่าใช้จ่ายในบ้าน
โดยทั่วไป เครื่องทำน้ำอุ่นใช้พลังงานไฟฟ้าระหว่าง 3,500 – 6,000 วัตต์ ต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่น ขนาด และกำลังของฮีตเตอร์ภายใน หากเปิดใช้งานวันละ 15–30 นาทีทุกวัน ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ในช่วงหลักร้อยบาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าไม่มากนัก แต่ถ้าผู้ใช้งานมีจำนวนมาก หรือเปิดใช้วันละหลายรอบ ค่าไฟอาจเพิ่มเป็นหลักพันได้เหมือนกัน
ปัจจัยที่ทำให้เครื่องทำน้ำอุ่นกินไฟมากกว่าที่ควร
การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่ “สิ้นเปลืองไฟ” โดยไม่รู้ตัว มักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนี้:
- เปิดเครื่องก่อนเปิดน้ำ ทำให้ฮีตเตอร์ทำงานโดยไม่มีน้ำผ่าน
- ปรับอุณหภูมิสูงเกินความจำเป็น
- ใช้นานกว่าที่ต้องการ เช่น เปิดทิ้งไว้ระหว่างถูสบู่
- ไม่ปิดเครื่องทันทีหลังเลิกใช้
- ใช้รุ่นเก่าที่ไม่มีระบบประหยัดพลังงาน
- ไม่บำรุงรักษาหรือปล่อยให้เครื่องสกปรก
ซึ่งหลายพฤติกรรมเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อรวมกันทุกวัน กลายเป็นภาระต่อค่าไฟที่ไม่ควรมองข้าม
เทคนิคง่าย ๆ ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดไฟ
แนวทางต่อไปนี้ เป็นเทคนิคที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องทำน้ำอุ่นใหม่หรือใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ
1. เปิดน้ำก่อนค่อยเปิดเครื่อง
การเปิดน้ำก่อนจะช่วยให้เครื่องทำงานในขณะที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา ช่วยป้องกันการทำงานของฮีตเตอร์โดยไม่มีน้ำ ซึ่งไม่เพียงแค่เปลืองไฟ แต่ยังอาจทำให้เครื่องเสียหายเร็วขึ้นด้วย
2. ตั้งอุณหภูมิให้อยู่ในระดับพอดี
หลายคนเข้าใจผิดว่า ยิ่งอุ่นมากยิ่งดี แต่จริง ๆ แล้ว การตั้งอุณหภูมิที่พอดีกับร่างกาย (ประมาณ 37–40°C) จะช่วยให้เครื่องทำงานน้อยลง และลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น
3. ลดเวลาการใช้งานแต่ละรอบ
การอาบน้ำให้อยู่ในช่วงเวลาสั้นลง เช่น จาก 15 นาที เหลือ 7–10 นาที ก็สามารถช่วยลดภาระไฟฟ้าได้มาก หากสมาชิกในบ้านมีหลายคน ยิ่งควรจัดตารางเวลาอาบน้ำให้เป็นระบบ เพื่อไม่ให้เครื่องต้องเปิด–ปิดหลายครั้งในช่วงสั้น ๆ
4. ปิดเครื่องทันทีหลังใช้งาน
บางคนมีพฤติกรรมลืมปิด หรือปล่อยเครื่องทำงานหลังอาบน้ำเสร็จ ซึ่งเท่ากับเสียไฟไปเปล่า ๆ แม้เครื่องจะมีระบบตัดไฟเมื่อไม่มีน้ำไหล แต่ก็ยังมีการใช้ไฟในส่วนควบคุมหรือจอแสดงผล
5. ใช้เครื่องเบอร์ 5 หรือระบบประหยัดไฟ
เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นใหม่ในปัจจุบัน มักมาพร้อมฉลากเบอร์ 5 ที่รับรองความสามารถในการประหยัดไฟ หรือมีฟังก์ชันเช่น Eco Mode หรือระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติที่ช่วยลดพลังงานโดยไม่กระทบความสบาย
เลือกเครื่องให้เหมาะกับบ้าน ก็ประหยัดไฟได้
อีกหนึ่งวิธีที่หลายคนมองข้าม คือ การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่น ที่เหมาะกับจำนวนสมาชิกและการใช้งานในบ้าน เช่น
- หากคุณอยู่คนเดียว หรือมีห้องน้ำเดียวในบ้าน อาจเลือกใช้เครื่องขนาดเล็ก 3,500–4,000 วัตต์
- บ้านที่มีสมาชิกหลายคนและใช้งานพร้อมกันควรเลือกเครื่องที่มีกำลังสูงขึ้น พร้อมระบบควบคุมความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะ ไม่เพียงช่วยประหยัดไฟ แต่ยังยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อีกด้วย
บำรุงรักษาเครื่องให้ดี ประหยัดกว่าเปลี่ยนใหม่
เครื่องทำน้ำอุ่นที่สะอาด และมีระบบทำงานเต็มประสิทธิภาพ ย่อมใช้ไฟน้อยกว่าการทำงานของเครื่องที่เต็มไปด้วยคราบตะกรันหรือมีสายไฟชำรุด
ข้อควรทำ
- ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กเป็นประจำ
- เช็กระบบตัดไฟ (ELCB) ว่ายังทำงานได้
- ล้างหัวฝักบัวไม่ให้มีตะกอนอุดตัน
- หากใช้น้ำบาดาลหรือน้ำที่มีแร่ธาตุสูง ควรล้างทำความสะอาดเครื่องทุก 6 เดือน
การดูแลเครื่องให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ประหยัดไฟโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ช่วงเวลาเปิดเครื่องก็มีผล
แม้ฟังดูไม่น่าเกี่ยว แต่ช่วงเวลาที่คุณอาบน้ำอุ่นก็มีผลต่อการประหยัดพลังงานเช่นกัน
- การอาบน้ำช่วงกลางคืนหรือตอนเช้ามืดที่อุณหภูมิภายนอกต่ำมาก เครื่องอาจต้องใช้เวลานานขึ้นในการทำให้น้ำอุ่น
- หากคุณอาบน้ำช่วงบ่ายหรือหัวค่ำ อุณหภูมิน้ำตั้งต้นจะอุ่นกว่าธรรมชาติ ทำให้เครื่องไม่ต้องทำงานหนัก
แน่นอนว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมตามนี้ได้ทุกวัน แต่อย่างน้อยการเลือกเวลาให้เหมาะสมก็ช่วยลดการทำงานเกินจำเป็นของเครื่องได้บ้าง
ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นอย่างคุ้มค่า ต้องสมดุลระหว่าง “สบาย” และ “ประหยัด”
คำว่า “ประหยัดไฟ” ไม่ได้หมายถึงต้องตัดความสบายหรือเลิกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า แต่คือการใช้อย่างฉลาด เลือกเครื่องที่ดี ดูแลให้พร้อม และปรับพฤติกรรมการใช้งานให้เหมาะสมกับบ้านและไลฟ์สไตล์
หากคุณเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการ และรู้วิธีใช้อย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยประหยัดไฟในแต่ละเดือน แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปได้อีกหลายปี
การเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดไฟทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม ปิดเครื่องให้ทันเวลา หรือเลือกใช้รุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟ ทุกขั้นตอนล้วนส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของคุณโดยตรง
บ้านที่ใส่ใจพลังงาน เริ่มต้นได้จากพฤติกรรมเล็ก ๆ เหล่านี้ และหากคุณกำลังมองหาเครื่องทำน้ำอุ่นที่ทั้งปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ยาวนาน สามารถเลือกชมรุ่นต่าง ๆ ได้ที่ เครื่องทำน้ำอุ่นจากMazuma หรือติดตามผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จาก Mazuma